กรมปศุสัตว์ผลักดันมาตรฐานฟาร์มไก่ไข่เพื่อสุขอนามัยและความปลอดภัยของผู้บริโภค
นายสัตวแพทย์โสภัชย์ ชวาลกุล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ และโฆษกกรมปศุสัตว์ ได้ประกาศถึงการบังคับใช้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มไก่ไข่ (GAP ฟาร์มไก่ไข่) ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป โดยจะครอบคลุมฟาร์มที่มีการเลี้ยงตั้งแต่ 1,000 ตัวขึ้นไป ในขณะที่ก่อนหน้านี้ มาตรฐานนี้ได้ถูกนำมาใช้กับฟาร์มขนาดใหญ่ที่มีการเลี้ยงตั้งแต่ 100,000 ตัวขึ้นไปเมื่อปี 2564
มาตรฐาน GAP ฟาร์มไก่ไข่มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพและสุขอนามัยในการผลิตไข่ไก่ในประเทศไทย โดยมุ่งหวังในการป้องกันโรคระบาดสัตว์ โรคสัตว์ที่สามารถติดต่อสู่คน และการปนเปื้อนสารตกค้าง เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของผู้บริโภคและปกป้องอุตสาหกรรมจากภัยคุกคามต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
กรมปศุสัตว์ได้ร่วมมือกับสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ในการสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนเข้าสู่มาตรฐาน GAP ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั่วประเทศ โดยกรมปศุสัตว์ได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรให้สามารถขอใบอนุญาตและใบรับรองได้อย่างง่ายดายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับฟาร์มไก่ไข่ขนาดกลางและเล็กที่มีการเลี้ยงระหว่าง 1,000 – 9,999 ตัว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแผนที่จะยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาตและใบรับรอง เพื่อสนับสนุนเกษตรกรที่อยู่ในข่ายนี้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
ในขณะเดียวกัน เกษตรกรที่เลี้ยงไก่ไข่น้อยกว่า 1,000 ตัว จำนวน 125,972 ราย จะไม่ได้อยู่ภายใต้บังคับมาตรฐาน GAP แต่กรมปศุสัตว์จะส่งเสริมให้เข้าสู่มาตรฐานทางเลือก เช่น ฟาร์มไก่ไข่เลี้ยงปล่อยอิสระหรือฟาร์มอินทรีย์
การได้รับรองมาตรฐาน GAP จะช่วยยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยของไข่ไก่ที่ผลิตจากฟาร์ม นอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการรักษาสุขอนามัยที่ดี ลดความเสี่ยงจากโรคระบาด และสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย