อ้างอิงจากประชาชาติธุรกิจ สมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการคัดค้านการนำเข้าเนื้อสัตว์จากสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเนื้อวัว, เนื้อหมู, เนื้อไก่ และเครื่องใน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออาชีพเกษตรกรในประเทศไทยอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันได้เสนอให้ภาครัฐเปิดทางนำเข้าข้าวโพด, ข้าวสาลี และกากถั่วเหลืองจากสหรัฐ โดยมีการตั้งข้อสังเกตถึงความสำคัญของการคุ้มครองสุขอนามัยของผู้บริโภคในประเทศ
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และเลขาธิการสมาพันธ์ปศุสัตว์ฯ กล่าวว่า การนำเข้าสินค้าทางการเกษตรจากสหรัฐอเมริกาควรพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่ออาชีพเกษตรกรไทย โดยเฉพาะในส่วนของการผลิตเนื้อสัตว์ที่มีต้นทุนสูงกว่าจากต่างประเทศ
สำหรับวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ประเทศไทยขาดแคลน เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้น สมาพันธ์ฯ มีความเห็นว่า ควรเปิดตลาดนำเข้าจากสหรัฐ เพื่อให้สามารถเติมเต็มความต้องการที่มีอยู่ โดยปัจจุบันความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศอยู่ที่ 9.2 ล้านตัน แต่สามารถผลิตได้เพียง 5 ล้านตันเท่านั้น
นายพรศิลป์ยังชี้ให้เห็นว่า การนำเข้าถั่วเหลืองจากบราซิลในปัจจุบันนั้นมีเหตุผลด้านต้นทุน และหากสหรัฐสามารถจำหน่ายในราคาที่แข่งขันได้ จะมีโอกาสเพิ่มขึ้นในการนำเข้าจากสหรัฐ
ในขณะที่ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 และหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้าน การนำเข้าข้าวโพดและวัตถุดิบอาหารสัตว์จากสหรัฐอาจเป็นทางเลือกที่ดีในการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและสนับสนุนเกษตรกรในประเทศให้สามารถรักษาอาชีพของตนได้อย่างยั่งยืน
สมาพันธ์ปศุสัตว์ฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือในการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคปศุสัตว์ โดยมีสมาชิกทั้งหมด 15 สมาคมทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ, สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย และสมาคมผู้เลี้ยงเป็ดเพื่อการค้าและการส่งออก
แหล่งที่มา: https://www.prachachat.net/economy/news-1752158