เมื่อวันพุธที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกในระดับรุนแรงเป็นครั้งแรก ผู้ป่วยเป็นชายชาวลุยเซียนา ซึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการที่อยู่ในขั้นวิกฤต หลังจากสัมผัสกับฝูงสัตว์ที่ติดเชื้อในสวนหลังบ้านของเขา
ในขณะเดียวกัน รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส H5N1 ซึ่งได้แพร่ระบาดอย่างกว้างขวางในฝูงโคนม ส่งผลให้มีคนงานฟาร์มหลายสิบคนติดเชื้อในปีนี้
ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ เจ้าหน้าที่ระดับรัฐและรัฐบาลกลางพบว่าการควบคุมการแพร่ระบาดล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโคนมติดเชื้อเป็นครั้งแรกในปี 2567 เนื่องจากเกษตรกรบางรายไม่ยอมให้มีการตรวจสอบเชื้อและขาดมาตรการควบคุมที่เหมาะสม
อาการป่วยของชายชาวลุยเซียนารายนี้ ซึ่งเป็นโรคทางเดินหายใจขั้นรุนแรง แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นจากไวรัสที่เคยก่อให้เกิดอาการตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบในคนงานฟาร์มที่สัมผัสกับเชื้อ
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ได้ยืนยันว่ามีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกในมนุษย์ถึง 61 รายตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นคนงานในฟาร์มโคนมที่มีโคติดเชื้อ รวมถึงคนงานที่ทำงานในฟาร์มสัตว์ปีกด้วย
กระทรวงสาธารณสุขของรัฐลุยเซียนาได้ออกแถลงการณ์ว่า ผู้ป่วยชายรายนี้มีโรคประจำตัวและมีอายุมากกว่า 65 ปี ทำให้เขาเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง
เดเมทรี ดาสคาลาคิส ผู้อำนวยการศูนย์การสร้างภูมิคุ้มกันและโรคทางเดินหายใจแห่งชาติของ CDC กล่าวในระหว่างการสัมภาษณ์กับนักข่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นกรณีแรกที่เชื่อมโยงกับสัตว์ปีกในสวนหลังบ้าน ซึ่งไม่ได้เลี้ยงในเชิงพาณิชย์